📦 กล่องกระดาษลูกฟูกมีประเภทไหนบ้าง? รู้ให้ครบก่อนเลือกใช้

📦 กล่องกระดาษลูกฟูกมีประเภทไหนบ้าง? รู้ให้ครบก่อนเลือกใช้

กล่องกระดาษลูกฟูกไม่ได้มีแค่ “แบบสี่เหลี่ยมธรรมดา” อย่างที่หลายคนคิด เพราะจริง ๆ แล้วกล่องชนิดนี้มีรูปแบบการใช้งานที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งด้านการขนส่ง การแสดงผลสินค้า และการใช้งานเชิงพาณิชย์ต่าง ๆ ซึ่งแต่ละประเภทถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์เฉพาะเจาะจง

การเข้าใจประเภทของกล่องลูกฟูกจะช่วยให้ผู้ประกอบการเลือกใช้กล่องที่ ตอบโจทย์การใช้งาน ได้ตรงจุดที่สุด ทั้งในแง่ของความคุ้มค่า ความแข็งแรง และภาพลักษณ์ของแบรนด์


🧱 ประเภทของกล่องกระดาษลูกฟูก (ตามโครงสร้าง)

  1. RSC (Regular Slotted Container)
    กล่องฝาชน 4 ด้าน ปิดด้วยเทปกาว เป็นแบบมาตรฐานที่สุด ใช้ได้กับสินค้าทั่วไปทุกชนิด

  2. HSC (Half Slotted Container)
    เหมือน RSC แต่ไม่มีฝาบน เหมาะสำหรับสินค้าที่โชว์ด้านบน หรือใช้ปิดด้วยฝาแบบอื่น

  3. Die-Cut Box (กล่องไดคัท)
    กล่องที่ใช้แม่พิมพ์ตัดตามรูปแบบเฉพาะ เช่น กล่องไปรษณีย์ กล่องของขวัญ มีความสวยงามและพอดีกับสินค้า

  4. Full Overlap Box (FOL)
    ฝาปิดที่ซ้อนทับกันเต็มด้านหน้า เหมาะสำหรับของหนัก ต้องการความแข็งแรงมากเป็นพิเศษ

  5. Telescopic Box
    กล่องฝาครอบสองชิ้น (ฝาบน/ฝาล่าง) เช่น กล่องใส่เค้ก หรือกล่องครอบพัสดุ มีความยืดหยุ่นสูงในการปรับความลึก

  6. Five Panel Folder (5PF)
    ใช้สำหรับสินค้ายาว เช่น ท่อ เหล็ก อลูมิเนียม ข้อดีคือสามารถประกอบและพับได้ง่าย

  7. Self-locking Box / Auto-lock Bottom
    กล่องที่สามารถล็อกตัวเองได้โดยไม่ต้องใช้เทปหรือกาว ประหยัดเวลาและดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น


📌 การจำแนกตามจำนวนชั้น

  • Single Wall (3 ชั้น) – ใช้งานทั่วไป

  • Double Wall (5 ชั้น) – สำหรับของหนัก หรือสินค้าที่ต้องส่งไกล

  • Triple Wall (7 ชั้น) – ใช้ในอุตสาหกรรม เช่น เครื่องจักร ชิ้นส่วนยานยนต์


✨ การเลือกใช้กล่องแต่ละประเภท

การเลือกประเภทกล่องที่เหมาะสมช่วยลดต้นทุน ป้องกันความเสียหาย และส่งเสริมภาพลักษณ์แบรนด์ ยกตัวอย่างเช่น

  • ร้านเบเกอรี่ควรใช้กล่อง Die-Cut แบบสวยงาม

  • ธุรกิจส่งของควรใช้ RSC หรือกล่องฝาชนมาตรฐาน

  • สินค้าพรีเมียมอาจใช้กล่องแบบฝาครอบหรือไดคัทเฉพาะ


สรุป
กล่องกระดาษลูกฟูกมีให้เลือกหลากหลายมากกว่าที่คิด และแต่ละประเภทก็ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่แตกต่างกัน การเลือกใช้ให้ตรงกับวัตถุประสงค์ไม่เพียงแต่เพิ่มความปลอดภัยให้กับสินค้า แต่ยังเป็นการลงทุนในความพึงพอใจของลูกค้าอีกด้วย